ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่า ดาวพฤหัสบดีและดาวเคราะห์ก๊าซดวงใหญ่ที่อยู่รอบนอกของระบบสุริยะ สลัดตัวออกมาจากกลุ่มก้อนก๊าซต้นกำเนิดดวงอาทิตย์ เมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีก่อน ข้อมูลนี้ยืนยันจากยานอวกาศ เมื่อสำรวจพบธาตุต่างๆในสัดส่วนใกล้เคียงกับธาตุที่มีในดวงอาทิตย์ ซึ่งประกอบด้วยไฮโดรเจนและฮีเลียมเป็นสำคัญ


ดาวพฤหัสบดีอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์โดยเฉลี่ย 774 ล้านกิโลเมตร มีขนาดใหญ่มหึมา เทียบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางได้เท่ากับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโลก 11 ดวงเรียงต่อกัน และหากนำโลกไปบรรจุให้เต็มดวงดาวพฤหัสบดี ต้องใช้โลกประมาณ 1,400 ดวงทีเดียว แต่ความที่เนื้อในส่วนใหญ่เป็นก๊าซต่างจากโลกที่เป็นดาวเคราะห์หิน ดาวพฤหัสบดีจึงมีความหนาแน่นน้อยเมื่อเทียบกับโลก


จากการสำรวจของยานวอยเอเจอร์ 1 ทำให้เราทราบว่าดาวพฤหัสบดีมีวงแหวนเช่นเดียวกับดาวเสาร์ แต่มีขนาดเล็กและบางกว่ามาก ประกอบไปด้วยเศษหินและฝุ่นที่มีขนาดเล็ก และไม่มีน้ำแข็งเป็นองค์ประกอบ จึงทำให้มันไม่สว่างมากนัก (หินและฝุ่นสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ไม่ดีเท่ากับน้ำแข็ง)


ชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีประกอบด้วยไฮโดรเจน 90% และ ฮีเลียม10% ซึ่งปะปนด้วย มีเทน น้ำ และแอมโมเนียเพียงเล็กน้อย ลึกลงไปด้านล่างเป็นชั้นเมนเทิลชั้นนอกที่ประกอบไปด้วย ไฮโดรเจนและฮีเลียมเหลว และแมนเทิลชั้นในที่ประกอบไปด้วย ไฮโดรเจนที่มีสมบัติเป็นโลหะ และแกนกลางที่เป็นหินแข็งมีขนาดเป็น 2 เท่าของโลก


ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 5 เป็นดาวเคราะห์ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ เป็นดาวเคราะห์ที่มีดาวบริวารมากที่สุดในระบบสุริยะ 67 ดวง โดยดวงจันทร์ดวงใหญ่ที่สุดของดาวพฤหัสคือ “แกนิมีด” เป็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ใหญ่กว่าดาวพุธและดาวพลูโต และหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเร็วสูงที่สุดในระบบสุริยะ รอบหนึ่งใช้เวลาเพียง 9 ชั่วโมง 55 นาที


จุดเด่นเมื่อดูผ่านกล้องโทรทรรศน์ คือชั้นเมฆที่ห่อหุ้มดาวพฤหัส เด่นชัดที่สุดคือ จุดแดงใหญ่ ซึ่งเป็นพายุหมุนที่มีขนาดใหญ่กว่าโลก โดยทั่วไปดาวดวงนี้เป็นวัตถุที่สว่างที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในท้องฟ้า (รองจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดาวศุกร์