ดาวศุกร์มีขนาดใกล้เคียงกับโลกและคิดเป็น 80% ของมวลโลก ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ดวงที่สองจากดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์มักถูกเรียกว่าดาวประกายพรึกเพราะมันทำให้เกิดการสะท้อนแสงของอาทิตย์มากที่สุดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ดาวศุกร์ต่างจากโลกคือไม่มีดวงจันทร์เป็นดาวบริวาร และหมุนรอบตัวเองก็ใช้เวลานานมากกว่า 1 ปี
- ดาวศุกร์ถูกค้นพบเมื่อ 3,600 ปีที่แล้ว มนุษย์หลงใหลในดาวศุกร์ตั้งแต่แรกเริ่มของดาราศาสตร์ ดาวศุกร์อยู่ใกล้โลกมาก ซึ่งหมายความว่ามันเป็นวัตถุที่สว่างที่สุดเป็นอันดับสองในท้องฟ้ายามค่ำคืนรองจากดวงจันทร์ ดังนั้นการมีอยู่ของดาวศุกร์จึงเป็นที่รู้จักนานมาแล้ว ชาวบาบิโลนเป็นคนแรกที่ค้นพบดาวศุกร์ และพวกเขาก็มีบันทึกของดาวศุกร์ตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 17 ก่อนค.ศ.
- บรรยากาศของดาวศุกร์ มีความหนาแน่นมาก มีความดันพื้นผิวมากกว่าโลก 90 เท่า ประกอบไปด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และไนโตรเจนในปริมาณเล็กน้อย ก๊าซเรือนกระจกมีอิทธิพลมากจนอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวดาวศุกร์อยู่ที่เกือบ 860 องศาฟาเรนไฮต์ ชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์จึงมีการสร้างฟ้าผ่าได้ ดาวศุกร์แทบไม่มีไอน้ำบนพื้นผิวแต่มีฝนกรดซัลฟิวริก
- ขนาดของดาวศุกร์ ดาวศุกร์มีขนาดใกล้เคียงกับโลก ดังนั้นจึงมักถูกเรียกว่าดาวน้องสาวของโลก ขนาดเฉลี่ยของดาวศุกร์อยู่ที่ประมาณ 6,051.8 กิโลเมตร และโลกมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 6,371 กิโลเมตร
- พื้นผิวของดาวศุกร์ การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกบนดาวศุกร์ดูเหมือนจะหยุดไปแล้ว ที่นี่มีภูเขาไฟมากกว่าร้อยลูกอยู่บนพื้นผิว ล้อมรอบด้วยกระแสลาวาที่แข็งตัว มีหลุมอุกกาบาตมากกว่าหนึ่งพันหลุมบนพื้นผิวของดาวศุกร์ หินแข็งๆบนพื้นผิวของดาวศุกร์สามารถทนต่อการกัดเซาะของลม และถึงแม้ชั้นบรรยากาศจะมีการกัดกร่อน แต่ก็ไม่มีการกัดเซาะของน้ำและฝนเหมือนบนโลก หมายความว่าหลุมอุกกาบาตที่กระทบบนพื้นผิวของดาวศุกร์มีสภาพผุกร่อนน้อยลงและยังคงความเก่าแก่อยู่เสมอๆ
- การหมุนของดาวศุกร์ ดาวศุกร์หมุนในทิศตรงกันข้ามกับวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งหมายความว่าบนดาวศุกร์ ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหมด มีเพียงดาวศุกร์และดาวยูเรนัสเท่านั้นที่หมุนถอยหลัง นอกจากนี้เราก็ยังไม่เข้าใจว่าความจริงคืออะไร บางทฤษฎีมองว่าที่จริงแล้วดาวศุกร์หมุนตามปกติแต่แกนหมุนของมันกลับด้านเป็น 180 องศา ทฤษฎีอื่นๆก็เชื่อว่าในท้ายที่สุดดาวศุกร์จะหมุนช้าลงแล้วหยุด และเริ่มหมุนไปในทิศทางตรงกันข้าม
- สิ่งแวดล้อมของดาวศุกร์ เนื่องจากชั้นบรรยากาศและเมฆที่หนาขึ้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นบนดาวศุกร์ในตอนแรก บางคนคาดการณ์ว่าอาจมีมหาสมุทร ภูมิอากาศแบบเขตร้อนและอาจมีสิ่งมีชีวิตด้วยซ้ำ จนกระทั่งมียานอวกาศลำแรกที่สามารถมองทะลุผ่านเมฆที่หนาทึบได้ และค้นพบว่าสภาพพื้นผิวของดาวศุกร์เลวร้ายเพียงใด ตัวอย่างเช่น ยานอวกาศที่ส่งไปยังดาวอังคารสามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน และยานอวกาศที่ส่งไปยังดาวศุกร์สามารถวิ่งได้เพียงสองชั่วโมงเท่านั้น